วันอังคารที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2553

ใช่เรารึปล่าว รีบปรับ

สิ่งมีชีวิตที่ผมเกลียด และขยะแขยง มากกว่าแมงสาบ 
คือคน 
เห็นแก่ตัว 
คนที่คิดว่าตัวเองคือจุดศูนย์กลางของโลก
คนที่ไม่มีคำว่าเสียสละและแบ่งปันในหัวใจ 
เอ็กซ์แซมเปิ้ล 
- คนที่รีบกดปิดลิฟท์แม้จะรู้ว่ามีคนกำลังวิ่งจะเข้าลิฟท์
- คนที่นั่งเฉยๆ มองเพื่อนๆ ยกข้าวของกันอุตลุต
- คนที่รีบชิงแท็กซี่ ทั้งๆ ที่คนอื่นเป็นคนโบกรถ
- สัมภเวสีที่โทรศัพท์ในโรงหนัง
- คนที่พ่นควันบุหรี่โดยไม่ดูทิศทางลมว่ามันปลิวไปใส่หน้าใคร
- คนที่เลี้ยงสัตว์แต่ไม่ใส่ใจว่ามันจะไปขี้หน้าบ้านคนอื่น
- คนยืมเงินแล้วไม่คิดคืน
- คนกินข้าวแล้ววางจานให้คนอื่นล้าง
- คนทิ้งพ่อแม่
- คนที่เลือกหยิบเค้กชิ้นใหญ่ที่สุดในถาด 
คนที่ไม่เคยคิดที่ออกเงินเอง คิดแต่อยากได้ ไม่เคยออกเงิน
 คนเหล่านี้มีอยู่รอบๆ ตัวเรา
และอยู่รอบๆ ตัวผม
คนที่เคยแสดงออกถึงความเห็นแก่ตัวแม้เพียงหนึ่งครั้ง
จะลดค่าตัวเองเป็นบุคคลต่ำชั้นเพียงชั่วพริบตา
และยากที่ดึงความรู้สึกให้กับมาสูงขึ้นมาได้ 
พวกเค้าหารู้ไม่ว่า
คนที่มีค่าที่สุด
คือคนที่หยิบเค้กชิ้นใหญ่ที่สุดในถาด 
เพื่อ 
เอามาให้คนที่ไม่มีโอกาสที่จะได้หยิบเค้กก้อนใหญ่ชิ้นนั้น

การทำงาน

คนเห็นแก่ตัว มีผลเกี่ยวเนื่องกับ ความไม่จริงใจ 
กล่าวรวมๆ คนเห็นแก่ตัวก็น่าจะเป็นคนไม่จริงใจด้วย 
ดังนั้นชีวิตจึงดำรงอยู่ด้วยการปั้นหน้ากับคนรอบข้าง
 และคนรอบข้างก็ไม่จริงใจกับเค้า
คนเห็นแก่ตัวมักจะอ้างสรรพคุณว่าตนเองจริงใจ
เพื่ออำพรางความไม่จริงใจของตน
ทั้งๆ ที่ความจริงใจ เกิดจากการ "ให้" ในช่วงเวลาที่อีกฝ่ายต้องการ
และจะมีค่าอย่างแท้จริง เมื่อ "ให้" ไปโดยแม้อีกฝ่ายยังไม่ได้ร้องขอ
แต่คนเห็นแก่ตัวจะ "ให้" ก็ต่อเมื่อมีผลประโยชน์กับตน
หรือสถานการณ์จำต้องให้ 
เราสามารถวัดความเห็นแก่ตัวกันได้ง่ายๆ
แค่เราตะโกนบอกว่าเรายกของชิ้นนี้คนเดียวไม่ไหว
ในเหตุการณ์ที่ทุกคนได้ยินทั่วถึงกันหมด
อากัปกริยาของแต่ละคนจะบ่งบอก
บางคนลุกขึ้นมอง
บางคนชะโงกหน้ามอง
บางคนมองหน้าเรา
บางคนเดินขึ้นมาถาม
บางคนเดินมาขยับๆ ของ 
คนที่กล่าวมาทั้งหมดนี้
คือคนมีน้ำใจ
แม้งานข้างหน้าของเค้าอาจจะยุ่ง
แต่ความจริงใจและน้ำใจที่มีแต่เรา
จะสร้างความกระวนกระวายใจให้เค้าไม่แพ้กัน
แค่เพียงมองหน้า,ชะโงกหน้า ลุกขึ้นมามอง
นั่นคือภาษากายที่บ่งบอกว่า "เมิงจะให้กุช่วยมั๊ย"
คงไม่ต้องบอกถึงคนที่เดินมาหรอกนะ 
แต่บางคน
เมื่อได้ยินเสียงแล้วมองขึ้นมาแล้ว
จะหดหัวกลับเข้าหน้าคอมทันที
พร้อมกับทำท่ายุ่งวุ่นวายเสียเหลือเกิน 
ถ้าคุณเจอแบบนี้ ถือว่าคุณโชคดี
เพราะคุณได้เจอพระเอกของเรื่องที่ผมเล่าอยู่ในตอนนี้ล่ะ


เกี่ยวกับเรื่องงาน
คนเห็นแก่ตัวเมื่อถูกร้องขอให้ช่วย หรือ มีบางอย่างให้ช่วย
เค้าจะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวบางอย่างที่ใช้ได้ดีเสมอ
นั่นคือการกล่าวอ้าง "หน้าที่" หรือ "ตำแหน่ง" ของตน
เพื่อให้ขอบเขตการทำงานของตนเองไม่เกินหน้าที่
แม้กระทั่งช่วยผู้หญิงแก่ๆ ในแผนกสักคนช่วยยกลังเอกสาร
ก็ถือว่าไม่ใช่หน้าที่ เพราะบริษัทไม่ได้จ้างมายกของ
ชั้นมาทำงานที่นี่เพื่อ "คิด" 
จนบางทีคุณก็อาจอยากจะเถียงกลับไปว่า
 "ที่ทำๆ อยู่นั่น ...
คิดแล้วเหรอ"

วันจันทร์ที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2553

ยึดพวกพ้องทำให้ประเทศไทยเสื่อม

ท่าน พอ.เปรม ฯชี้พวกพ้อง ทำไทยเสื่อม ไร้นิติรัฐยุติธรรม (ไทยรัฐ)

         
เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ ที่มหาวิทยาลัยรังสิต พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ กล่าวปาถกฐา ในงานประชุมวิชาการว่าด้วยนวัตกรรมผู้นำระดับครั้งที่ 2 "การพัฒนาผู้นำเพื่อสร้างสังคมธรรมาธิปไตย" ว่า คำว่าธรรมาธิปไตย คือ การถือธรรมเป็นใหญ่ถือความถูกต้องเป็นหลัก ดังนั้น สังคมธรรมาธิปไตย เป็นสังคมที่น่าอยู่ น่าศรัทธา เป็นที่ต้องการของคนหมู่มาก เมื่อเอ่ยถึงผู้นำ เราจะได้มาโดยการสร้าง แต่มีข้อยกเว้นสำหรับคนบางคน เพราะเกิดมามีลักษณะผู้นำมาด้วย แต่ก็มีน้อยมาก แต่ก็ใช่ว่าจะมีครบถ้วนสมบูรณ์ไม่ จำต้องสร้างหลายสิ่งหลายอย่าง

          ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ  กล่าวต่อว่า ปัญหาที่เรากำลังเผชิญในปัจจุบันนี้ ปัญหาเรามีผู้นำหรือยัง มีพอแล้วหรือยัง ผู้นำเหล่านั้นเข้าใจธรรมาธิปไตยหรือยัง มีความพร้อมหรือยัง ดังนั้น เราต้องสร้างผู้นำ พร้อมที่จะพัฒนาธรรมาธิปไตยหรือยัง จึงขอเสนอว่า..

         
1. ขณะนี้เรามีผู้นำแล้วมากมาย อาจจะมากเกินไป มีคนจำนวนมากอาสาเป็นผู้นำ แต่มีเสน่ห์น้อย ไม่มีใครอยากตาม ฉะนั้น เป็นหน้าที่ของเราที่จะต้องสร้างระบบสรรหา นำมารวมเป็นธรรมาธิปไตย 

         
2. ธรรมาธิปไตยเข้าใจง่าย แต่ผู้นำขณะนี้เข้าใจหรือไม่ รับได้หรือไม่ หรือรับได้แต่ไม่ชอบ ไม่ประสงค์นำไปใช้ เพราะไม่สอดคล้องกับความเป็นสำเร็จของตนแล้ว พวกพ้อง ถ้าสังคมธรรมาธิปไตยเกิดขึ้นได้จริง คนไทยจะมีความสุข เพราะจะได้รับความเป็นธรรม ถือความถูกต้องเป็นหลัก ประเทศอันเป็นที่รักของเราจะเป็นปกติสุข

          พล.อ.เปรม กล่าวอีกว่า การสร้างคล้ายกันมาก จะผิดกันเฉพาะแต่การนำไปใช้ มีสิ่งหนึ่งที่จะเป็นตัวแปร คือวัฒนธรรมหมายรวมจารีตประเพณี ประเทศไทย ความเป็นเพื่อน ผู้มีพระคุณ ทำให้บทบาทผู้นำต่างออกไป จนทำให้เกิดเสียความยุติธรรมและนิติรัฐ ทั้งนี้เชื่อว่าผู้นำที่จะร่วมกันสร้างธรรมาธิปไตยนั้นต้องเป็นคนดี โดยคนดีนั้น ต้องมีคุณสมบัติ..

         
1. ต้องเข้าใจ สามารถแยกแยะความดีกับความชั่ว
          2. ซื่อสัตย์ สุจริต
          3. ต้องเสียสละ
          4. ต้องจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตย์ ต้องเคร่งครัดในคำปฏิญาณ
          5. ต้องเป็นตัวอย่างที่ดี
          6. ต้องเข้าใจว่า เกิดมาต้องตอบแทนคุณแผ่นดิน

          "ทุกวันนี้ทหารมีบทบาทมาก ต้องมีความเป็นผู้นำมากกว่าคนอื่น เพราะเกี่ยวข้องกับชีวิตคน ยามปกติ ยามไม่สงบ และยามสงคราม ดังนั้นสำคัญอย่างยิ่งที่จะต้องมีคุณสมบัติที่พิเศษกว่าคนอื่น จะต้องเป็นคนดี มีภาวะผู้นำ ต้องมีธรรมาธิปไตย" พล.อ.เปรม กล่าว
          ดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยรังสิต กล่าว่า ทุกวันนี้คนเรามีการศึกษาทฤษฎีระดับสูง แต่กลับขี้โกงมากขึ้น ไม่มีจริยธรรมในการบริหารเทศ เป็นวิกฤติสังคม เหมือนที่เป็นอยู่ในขณะนี้ แต่เราก็ต้องไม่ยอมแพ้ ต้องไม่ท้อแท้ ท้อถอย เราต้องหาทางออกให้ได้ ซึ่งประเทศไทยนั้นยังมีคนดี มีต้นแบบความเป็นผุ้ผู้นำซื่อสัตย์ มีคุณธรรม มีจริยธรรม เป็นความหวังให้เราก้าวเดินต่อไป
            สิ่งที่น่ากลัวยามนี้คือความเห็นแก่ตัว เอาตัวรอด เลยดึงหรือสร้างแนวทางหรือแนวคิดเพื่อสร้างพวกพ้องให้เกิดขึ้นภายใต้ผลประโยชน์เล็กๆน้อย ทำให้เกิดความแตกแยกในองค์กรก็จะขัดต่อการดำเนินงานของประเทศโดยรวมเหมือนท่าน พอ.เปรม ท่านได้กล่าวไว้เบื้องต้น แต่อย่าปล่อยให้การดำเนินงานที่สวนกระแสสังคมแนวนโยบายที่ท่าน พอ.เปรม รับบุรุษของเรากล่าว โดยเฉพาะสามจังหวัดชายแดนภาคใต้น่าสงสารนะครับถ้ามีคนที่ไม่มีใจในการทำงาน สร้างพวกพ้องที่ไม่มีเหตุผล ทำให้เกิดรอยร้าวมากขึ้นกว่าเดิม ฝากไว้ให้คิด

วันเสาร์ที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2553

บัณฑิตดีเด่นของอำเภอเบตง

ศอ.บต. มอบรางวัลบัณฑิตอาสาพัฒนามาตุภูมิยอดเยี่ยม จังหวัดชายแดนภาคใต้(จชต.) ระดับตำบล อำเภอ และระดับจังหวัด ในงาน “วันเกียรติยศบัณฑิตอาสาพัฒนามาตุภูมิยอดเยี่ยม จชต. ประจำปี ๒๕๕๓”
วันนี้ (19 กันยายน 2553) เวลา 11.00 น. ที่โรงแรม ซี.เอส. จังหวัดปัตตานี นายถาวร เสนเนียม รมช.มหาด เป็นประธานในพิธี วันเกียรติยศบัณฑิตอาสาพัฒนามาตุภูมิยอดเยี่ยมจังหวัดชายแดนภาคใต้(จชต.) ประจำปี 2553 โดยมี นายภาณุ อุทัยรัตน์ ผอ.ศอ.บต. นายพิศาล ทองเลิศ รอง ผวจ.ปัตตานี และบัณฑิตอาสาพัฒนามาตุภูมิ จชต. ทั้ง 5 จังหวัด ได้แก่ ปัตตานี นราธิวาส ยะลา สงขลา และสตูล เข้าร่วม กว่า 1.000 คน นายถาวร เสนเนียม กล่าวว่า การเป็นผู้ได้รับเกียรติอันเยี่ยมยอด หรือรางวัลเกียรติยศ ต้องเกิดจากการทำความดี จากองค์กรที่ดี แต่ผู้ที่ไม่ได้รับรางวัลดีเด่นไม่ใช่คนไม่ดี แต่หมู่คนดีต้องมีการแข่งขัน ตามวัตถุประสงค์ของ ศอ.บต. และความต้องการของประชาชน ซึ่ง ศอ.บต.คำนึงถึงยุทธศาสตร์พระราชทาน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ “เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา” ในการนำนโยบายไปสู่การปฏิบัติ การเข้าใจ คือต้องการให้ข้าราชการและประชาชนกว่า 60 กว่าล้านเข้าใจซึ่งกันและกันในการแก้ไขปัญหาและพัฒนาภาคใต้ เข้าถึง คือให้ทุกฝ่ายเข้าถึงซึ่งกันและกันและมีการพัฒนาให้เป็นไปตามความต้องการของประชาชน ไม่ใช้จากบนลงมาสู่ประชาชนโดยไม่รับรู้ว่าประชาชนต้องการอะไร จากการที่บัณฑิตอาสาจากหมู่บ้านละ 1 คน เป็นตัวแทนของประชาชนในการเชื่อมความต้องการ นำปัญหา และนำความปรารถนาดีจากภาครัฐและรัฐบาลไปสู่ประชาชน นับว่าเป็นผู้เสียสละให้กับประเทศชาติและบ้านเมือง ทำงานคู่กับประชาชนและคณะกรรมการหมู่บ้าน บางครั้งต้องเสี่ยงต่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ซึ่งบัณฑิตอาสาจะเป็นส่วนหนึ่งในการเชื่อมประสานสัมพันธ์ งานของการพัฒนาของ ศอ.บต.และของรัฐบาล
เพื่อเสริมสร้างขวัญกำลังใจให้บัณฑิตอาสาฯ และสนับสนุนการปฏิบัติงานให้มีประสิทธิภาพ ประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ผลการปฏิบัติงานของบัณฑิตอาสาฯ ให้ประชาชนได้รับทราบอย่างกว้างขวางมากยิ่งขึ้น และเพื่อสร้างอุดมการณ์และจิตสำนึกในการปกป้องสถาบันสำคัญของชาติ ตลอดจนเสริมสร้างความสมานฉันท์สามัคคีของคนในชาติ และการมอบรางวัลและโล่เกียรติยศให้แก่บัณฑิตอาสาฯ เพื่อเป็นการสร้างขวัญกำลังใจ ให้บัณฑิตอาสาฯ
ที่ได้ปฏิบัติหน้าที่ตามแนวทางรัฐบาลอย่างมีประสิทธิภาพตลอดระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านมา โดยบัณฑิตอาสาได้รวบรวมข้อมูลที่ถูกต้องเสนอให้กับส่วนราชการ ทั้งทางด้านครัวเรือน ผู้ว่างงาน ผู้พิการ และผู้ด้อยโอกาสในหมู่บ้าน เพื่อใช้เป็นแนวทางในการช่วยเหลือของหน่วยงานราชการ ตลอดจนเสริมสร้างขวัญกำลังใจให้บัณฑิตอาสาฯ ในการปฏิบัติหน้าที่ต่อไป

                 น้องแหม่มเป็นที่ยอมรับของทุกคน ผมขอชื่นชม ถ้าอยากเห็นผลงานของเธอและชาวบ้านจุฬาภรณ์พัฒนา 10 ขอเชิญเยียมชมกิจกรรมได้ ณ บ้านจุฬาภรณ์พัฒนา 10
                ในการทำงานที่มีความมุ่งมั่นและตั้งใจ ศอ.บต.เดินมาถูกทางแล้วที่มีโครงการเหล่านี้ครับ ฝากขอให้เพิ่มความเข้มค้นในการเลือกเฟ้นบุคคลเพื่อจะได้บุคคลที่มีประสิทธิภาพครับ

รีแล็กซ์

ชม

วันศุกร์ที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2553

อาหารสุขภาพ

ส้มแขกกวน


         ส้มแขกกวน

ผู้ผลิต  กลุ่มสตรีสัมพันธ์


ประวัติความเป็นมา

                เนื่องจากพื้นที่ของอำเภอเบตง มีส้มแขกมาก        คณะกรรมการหมู่บ้านจึงมีแนวคิด      ให้มีการรวมกลุ่มสตรี ระยะแรกประมาณ 80 คน ระดมทุนคนละ  20   บาท  นำมาทดลองทำส้มแขกกวน  วางจำหน่ายตามร้านค้าต่าง ๆ ในอำเภอเบตง  หลังจากนั้นได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากเทศบาลเมืองเบตง จำนวน 50,000 บาท  นำมาพัฒนาในเรื่องของหีบห่อบรรจุภัณฑ์

กระบวนการ/ขั้นตอนการผลิต

1.       นำส้มแขกแห้งมาต้ม เอาเฉพาะเนื้อมาบดให้ละเอียด
2.       นำเนื้อส้มแขกที่ได้มากวนผสมกับน้ำตาล  เกลือ และแบะแซตามส่วน  กวนจนได้ที่ ตักพักไว้ให้เย็น  ห่อด้วยกระดาษแก้ว

จุดเด่นของผลิตภัณฑ์

                ไม่มีสารเจือปน  สะอาด  รสเปรี้ยวอมหวาน

ปริมาณการผลิตและราคา

                เดือนละ 500-700 กล่อง (กล่องละ 100 กรัม)  ขายส่งกล่องละ /20 บาท ขายปลีกกล่องละ25บาท

สถานที่จำหน่าย

                กลุ่มสตรีสัมพันธ์    ร้านค้าทั่วไปในอำเภอเบตง  /ศูนย์ส่งเสริมผลิตภัณฑ์ นตผ..เบตง

สั่งซื้อ/ขอข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

                กลุ่มสตรีสัมพันธ์ 26/2 .2 .กาแป๊ะกอตอ ต.เบตง อ.เบตง จ.ยะลา โทร. 0-7323-2360
                ศูนย์ส่งเสริมผลิตภัณฑ์ นตผ..เบตง ที่ว่าการอำเภอเบตง โทร. 0-7323-1147

                                                      กะซะ ประธานกลุ่มผู้ผลิตส้มแขกกวน